Hyperion เป็นสุดยอดบอสมหาโหดแห่ง Aion 4.0 Dark Betrayal กุญแจสำคัญในการเอาชนะมันอยู่ที่ “สติ” และ “ตำแหน่ง” ของผู้เล่น เรามาดูรายละเอียดวิธีจัดการบอสยักษ์ตัวนี้กัน
Related posts
- Aion 4.0 Katalamize Instance
- Aion 4.0 Infinity Shard: Items and Skills to Use
- Aion 4.0 Infinity Shard: Ide Resonance
Warm-up Phase
เมื่อผู้เล่นเข้าสู่ Instance แห่งนี้ และได้พบกับ Hyperion ครั้งแรก จะปรากฏว่า Hyperion นั้นถูกปกคลุมด้วยม่านพลังที่ทำให้ Hyperion นั้นป็นอมตะ เริ่มขั้นแรกให้ผู้เล่นจัดการพวก monster ที่รายล้อม Hyperion อยู่ให้หมดก่อน จากนั้นจึงทำลายบรรดาเครื่องกำเนิดม่านพลังทิ้ง จนกระทั่งเหลือเครื่องสุดท้าย อย่าเพิ่งทำลาย ให้สมาชิกในกลุ่มทุกคนไปยืนประจำจุดที่จะต่อสู้กับ Hyperion เสียก่อน แล้วจึงค่อยทำลาย Ide Shield Generator เนื่องจาก เมื่อทำลายแล้ว ผู้เล่นจะมีเวลาจัดการกับ Hyperion เพียง 20 นาทีเท่านั้น
Attack Patterns of Hyperion
HP 100%
เริ่มแรก Hyperion จะโจมตีอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง 3 ครั้ง ให้ผู้เล่นที่เป็น Tanker (ตัวชน) พา Hyperion เคลื่อนออกจากจุดเดิม เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นที่เหลือหลบอยู่ด้านหลังบอส
HP 80%
รูปแบบการโจมตีของ Hyperion จะเริ่มเปลี่ยน โดย Hyperion จะเรียก monster ต่างๆ ออกมาโจมตีผู้เล่น ให้รีบจัดการอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะ Balaur ที่ใช้พลังเวทย์
HP 60%
Hyperion จะเปิดม่านพลังคลุมตัวเองไว้ พร้อมกับเรียก monster จำนวนมากออกมาจัดการกับเรา ให้ผู้เล่นมุ่งทำลายม่านพลังดังกล่าวเป็นหลัก เมื่อทำลายได้แล้ว monster ต่างๆจะหายไปเอง
HP 45%
รูปแบบการโจมตีต่างๆของ Hyperion จะรวดเร็วขึ้น ให้เตรียมใช้สกิล Remove Shock ไว้ดีๆ เพราะแค่เวลาเพียงเสี้ยงวินาที หลังจากผู้เล่นทั้งหมดอยู่ในสภาพ shock อาจถูก Hyperion จัดการได้ในพริบตาเดียว
HP 25%
Hyperion จะเปิดม่านพลังคลุมตัวเองไว้ พร้อมกับเรียก monster จำนวนมากออกมาจัดการกับเรา ให้ผู้เล่นมุ่งทำลายม่านพลังดังกล่าวเป็นหลักเหมือนเดิม โดยเมื่อทำลายได้แล้ว monster ต่างๆจะหายไป
HP 10%
เมื่อถึงจุดนี้ Hyperion จะเข้าสู่โหมด Berserk โดย Hyperion จะประเคนทุกสกิลเข้าใส่เรา พร้อมกับเรียกทุกสรรพกำลังหนุน monster ในปริมาณมหาศาล เข้าจู่โจม ให้ผู้เล่นทั้งหมดใช้สกิล DP (Divine Power) โดยเฉพาะสกิลที่เกี่ยวกับการเอาชีวตรอดทั้งหลาย แล้วจัดการโค่น Hyperion ลงให้ได้
Hyperion’s Skills
สกิลโจมตีบางชนิดของ Hyperion นั้นสังกัดธาตุดิน (Earth Element) ดังนั้นให้เตรียมพลังป้องกันตรงกับธาตุดังกล่าวด้วย เพราะสกิลประเภทนี้ สามารถสร้างความเสียหายได้สูงสุดกว่า 17,000 แต้ม (หมายเหตุ: ชื่อของสกิลแปลมาจาก Aion KR จึงอาจแตกต่างจาก Aion NA)
- Powerful energy blast: สร้างความเสียหายแรงสุดลิ่มต่อเป้าหมายเดียว (Tanker จะต้องรีบบอกด้วยว่าใครจะเป็นผู้รับเคราะห์)
- Energy release: สร้างความเสียหายต่อเป้าหมายเดียว แบบสุ่ม พร้อมดูด MP (Mana Point) ทิ้ง (Tanker ต้องคอยบอกว่าใครจะซวย)
- Cry: สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เมื่อใช้สกิลนี้แล้วรูปแบบการโจมตีจะเปลี่ยนไป
- 쓸어올리기: สร้างความเสียหายและทำให้ผู้เล่นทุกคนติด stun ให้ใช้ Remove Shock ทันที
- 내동댕이: สร้างความเสียหายรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง และสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อผู้เล่นที่ stun
- 쓸어버리기: สร้างความเสียหายบริเวณด้านหน้า และทำให้ติด stun
- 내려치기: สร้างความเสียหายต่อเป้าหมายเดียว
- Ide energey sphere: สร้างความเสียหายต่อเป้าหมายเดียว และต่อเป้าหมายรอบๆเป้าหมายนั้น
- 이드 결계막: ประเคนสารพัดการโจมตีใส่เป้าหมายเดียวเป็นเวลา 40 วินาที
Roles and Classes
Instance แห่งนี้ ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่น 12 คน (Alliance) โดยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของหน่วยโจมตีระยะประชิด จึงควรมี Chanter ไว้เพื่อใช้สกิล Word of Wind เมื่อถึงวาระจำเป็น
- Group 1: Tanker 1 DPS (Damage Per Second) หรือหน่วยสร้างความเสียหาย 3 และ Healer 2 คน
- Group 2: 1 คน คอยจัดการ Resonance Device พร้อม DPS 3 คน และ Healer 2 คน
Tanker (ตัวชน)
ได้แก่ Templar คอยรับการโจมตี และระบุผู้กำลังจะถูกโจมตีจาก Hyperion เพื่อให้ Healer ช่วยได้ทัน
Melee (จู่โจมประชิด)
ได้แก่ Gladiator และ Assassin คอยโจมตี Hyperion และจัดการกับเหล่า monster ที่ถูกเรียกมาให้เร็วที่สุด โดยในกลุ่มนี้ ควรมี sub-tanker หรือ ตัวชนสำรอง (Gladiator หรือ Templar) ด้วย 1 คน และต้องมี Chanter อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
Range (จู่โจมพิสัยไกล)
ได้แก่ Rangers, Sorcerer, Spiritmaster, Songweaver และ Gunslinger ซึ่งโจมตีจากระยะไกลต่อ Hyperion และคอยช่วยจัดการ monsters ที่ถูกเรียกออกมา รวมทั้ง Ide Resonance ด้วย ขณะที่ Cleric ให้เตรียมสกิลชุบชีวิตแบบลากเข้าหา Resurrection Loci ไว้ให้พร้อม
Healer (ตัวฮีล)
ได้แก่ Cleric และ Chanter จะต้องอยู่ในทั้งสองกลุ่ม และคอย buff และ heal ให้ HP เต็มไว้ตลอด เพื่อเสถียรภาพของกลุ่มในการต่อสู้ นอกจากนี้ Songweaver ยังสามารถช่วย Heal ได้ หากจำเป็น
Person in charge of the resonance
สามารถเป็นได้ทั้ง Rangers, Sorcerer, Spiritmaster, Songweaver และ Gunslinger ขอให้เป็น Range Class ก็พอ และตัดสินใจจะจัดการ Ide Resonance ที่จุดไหน
Location of the Party
ตำแหน่งยืนของสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการกับ Hyperion การวางตำแหน่งที่ทิศทาง 7 นาฬิกา จะมีประโยชน์มากกรณีที่มีสมาชิกตาย เพื่อให้ Cleric สามารถชุบลากได้สะดวก อย่างไรก็ดี การวางตำแหน่งอาจเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับว่าอาชีพอะไรด้วย
Location of players
- Tanker: รักษาระยะห่างจากบอส 2 เมตร และให้ Hyperion หันหน้าไปคนละทางกับสมาชิกคนอื่น
- Gladiator: รักษาระยะห่างจากบอส 2 เมตร และคอยสร้างความเสียหายจากด้านหลังของบอส
- DPS: ต้องห่าง 15 เมตรจากบอส และยืนอยู่ที่ทางวน
- Healer (ตำแหน่งที่หนึ่ง): ยืนที่ทิศทาง 9 นาฬิกา (วงกลมสีเหลือง) ใกล้เสาหิน
- Healer (ตำแหน่งที่สอง): ยืนที่ทิศทาง 7 นาฬิกา และทิ้งระยะจากบอส 15 เมตร (วงกลมสีเหลือง)
- Resonance person: ยืนที่ทิศทาง 7 นาฬิกา คอยจัดการ monsters
การโจมตีปกติของ Hyperion มีพิสัยที่ระยะ 16 เมตร ให้พาบอสออกห่างจาก DPS และ Healer ให้มากที่สุด มิฉะนั้น ผู้เล่นเหล่านี้จะเสี่ยงตาย ส่วน Tanker และ Melee ให้อยู่ประชิด 2 เมตร ตลอดเวลา
Random Aggro Events
Hyperion สามารถสุ่มเลือกเป้าหมายและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงได้ สกิลดังกล่าว ได้แก่ Powerful energy blast และ Energy release เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ให้ Tanker รีบระบุชื่อคนที่กำลังตกเป็นเป้าหมาย แล้วให้ผู้เล่นที่ตกเป็นเป้าหมาย ขยับหนีออกจากบริเวณที่ตนยืนอยู่ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อสมาชิกคนอื่น
- Tanker (วงกลมสีฟ้า) ยืนอยู่กับที่ ไม่ต้องขยับไปไหน
- Gladiator (วงกลมสีเขียว) รีบขยับหนีไปอยู่ที่เสาหินด้านขวา
- DPS (วงกลมสีชมพู) ขยับถอยไปยังกำแพงด้านหลัง เพื่อไม่ให้ผู้อื่นรับความเสียหายด้วย แล้วรีบกลับเจ้าประจำตำแหน่ง
- Healer (ตำแหน่งที่หนึ่ง สีเหลือง) ขยับขึ้นไปที่กำแพงฝั่งตรงข้าม ด้านเดียวกับที่มี Tanker แต่อย่าเข้าใกล้ Tanker เด็ดขาด
- Healer (ตำแหน่งที่สอง สีเหลือง) ขยับถอยไปยังกำแพงด้านหลัง เพื่อไม่ให้ผู้อื่นรับความเสียหายด้วย แล้วรีบกลับเจ้าประจำตำแหน่ง
Summoned Monsters
เมื่อ HP ของ Hyperion ลดต่ำกว่าร้อยละ 80 บอสสุดโหดตัวนี้จะเริ่มเรียก Monsters เข้าจู่โจมเรื่อยๆ ให้จัดการโดยเรียงลำดับสำคัญตามนี้ Magic Balaur ตามด้วย Elite Balaur และ Kishu โดยเหล่าสมุนของ Hyperion จะเกิดที่จุด A และ B (จุดสีแดง) เหตุที่ต้องจัดการ Magic Balaur ก่อนเพราะ พลังเวทย์ของมันสร้างความเสียหายสูง ขณะที่จำนวนสูงสุดของ monster ที่เรียกมาจะไม่เกิน 6 ตัวต่อครั้ง ให้แบ่งสมาชิกไปจัดการ ดูตามปริมาณที่จำเป็น ส่วน Kishu หากมีมา ให้จัดการด้วยสกิลประเภท AOE (Area of Effect)
Point A Spawn Monsters
Monsters ที่เกิดจากจุดนี้ มักจะเดินทางลงมาตามทางวน เพื่อเข้าสู่พื้นที่ตรงกลาง sub-tank ควรจะเข้ามารับความเสียหายจาก monster กลุ่มนี้ และกันพวกมันออกจาก Tanker ตัวหลัก
Point B Spawn Monsters
ผู้เล่นอาชีพประเภท DPS สามารถจัดการพวกมันได้ ก่อนที่จะลงไปถึงโถงกลาง
Aion 4.0 Infinity Shard Pathway